Thursday, September 22, 2022

ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เปิดแล้วผ่าน 2 ช่องทาง

 ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 2565 เปิดให้เช็กแล้วผ่าน 2 ช่องทาง พร้อมเผย "ตารางการประกาศผลการลงทะเบียน"

ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เปิดแล้วผ่าน 2 ช่องทาง

โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่เป็นปัจจุบัน ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรสวัสดิการสังคมของภาครัฐให้แก่ประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการฯ) ปี 2565 วันพฤหัสบดีที่ 15 ก.ย. 2565 ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 13,111,355 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 8,373,969 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 4,737,386 ราย ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ

1. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ

2. ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2565 จนถึงวันที่ 19 ต.ค. 2565

สำหรับการลงทะเบียนในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่สาขาของธนาคารข้างต้นที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ในวันธรรมดา

ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนและมีสถานะแสดงข้อความว่า "กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว" สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป ผ่านเว็บไซต์ หรือให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ โดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด โดยผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนในช่วงตั้งแต่วันที่ 5 – 8 ก.ย. 2565 สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 65

(ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน - คลิกที่นี่)


ส่วนผู้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 2565 จะสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน โดยมีรายละเอียดการประกาศผลการลงทะเบียนตามตาราง ดังนี้

ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เปิดแล้วผ่าน 2 ช่องทาง

ทั้งนี้ เมื่อผู้ลงทะเบียนตรวจสอบข้อมูลแล้ว พบว่า

1. "สถานการณ์ลงทะเบียนสมบูรณ์" : ให้ผู้ลงทะเบียนรอผลการตรวจสอบคุณสมบัติ โดยจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติในช่วงเดือนมกราคม 2566

2. "สถานการณ์ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" : เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลกรมการปกครอง ระบบจะขึ้นข้อความแสดงโดยระบุสาเหตุของการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ดังนี้

  • ผู้ลงทะเบียนเป็นพระภิกษุ/สามเณร/แม่ชี
  • ไม่พบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน
  • สถานภาพบุคคลของผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง มีสถานะเสียชีวิต หรือย้ายไปต่างประเทศ หรือจำหน่าย
  • ผู้ลงทะเบียนไม่ได้มีสัญชาติไทย
  • ผู้ลงทะเบียนมีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือรูปแบบวันเดือนปีเกิดไม่ถูกต้อง
  • ผู้ลงทะเบียนมีคู่สมรส
  • ผู้ลงทะเบียนแจ้งข้อมูลคู่สมรสไม่ถูกต้อง
  • ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรครบถ้วน แต่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุตรไม่ถูกต้อง
  • ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรไม่ครบถ้วน โปรดตรวจสอบจำนวนบุตรและข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบุตรทุกราย

ในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนมี "สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์" สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต โดยหากผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้เท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พ.ย. 2565

อย่างไรก็ตาม ผู้ลงทะเบียนทุกคนที่ได้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้ลงทะเบียน "ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน" ได้ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนดังกล่าวได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยงาน.

ขอบคุณที่มา ไทยรัฐ

Tuesday, September 20, 2022

"รายได้เสริม" ช่วง "วันหยุด" อยู่บ้านก็มีเงินเข้ากระเป๋าได้ ด้วย 5 แอป

5 แอปฯ หา "รายได้เสริม" ช่วง "วันหยุด" อยู่บ้านก็มีเงินเข้ากระเป๋าได้ารายได้เสริม" ในช่วง "วันหยุดยาว" อยู่บ้านมีก็มีรายได้


ยุคโควิดเป็นช่วงที่รายได้หลายคนหดหาย รู้สึกไม่มั่นคงทางการเงิน และกำลังมองหา "รายได้เสริม" หรือ "อาชีพที่ 2" ไปจนถึง "อาชีพที่ 3" กันมากขึ้น แต่หลายคนยังลังเลที่จะเริ่มต้นทำอาชีพใหม่ๆ เพราะมองว่าจำเป็นต้องใช้เงินลงทุน ทว่า ยุคใหม่รายได้สร้างได้ทุกที่ เปลี่ยนวันว่างเป็นรายได้พิเศษ ได้ไม่ยากจนเกินไป 

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" รวม 5 แอปพลิเคชัน ยอดฮิตที่เป็นเครื่องมือสร้างรายได้ของคนยุคใหม่ ที่ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องลงทุนใหม่ แถมเริ่มต้นได้ด้วยทักษะและสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

 1. Joylada (จอยลดา)

"จอยลดา" เป็นแอปพลิเคชันที่เปิดให้คนรักนิยายเข้าไปเลือกเสพนิยายวัยรุ่น ที่นำเสนอออกมาเป็นรูปแบบของห้องแชท คนอ่านจะกดที่หน้าจอแล้วข้อความค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ ประหนึ่งแอบอ่านแชทคนอื่นอยู่ เป็นอีกหนึ่งแอปฯ นิยายที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่ม GEN Z

สำหรับแอปฯ นี้เปิดโอกาสให้ใครๆ ก็เป็นนักเรียนนิยายสุดฟินได้ โดยสามารถเขียนนิยายขายลงในแอปฯ ทั้งแบบเป็นตอนๆ และแบบเต็มเรื่อง ซึ่งผู้เขียนจะมีรายได้เกิดขึ้นจากคนที่เข้ามากดซื้อนิยายที่เราเขียนไปอ่าน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในแอปฯ จนได้รับเหรียญ แคนดี้ มาเปย์ให้กับนักเขียนอย่างเราก็เป็นรายได้เช่นกัน 

 2. Blockdit (บล็อกดิต) 

แอปฯ "Blockdit" หน้าตาละม้ายคล้ายกับโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก แต่ไม่ได้มีไว้อัปเดตเรื่องราวส่วนตัวเท่านั้น เป็นแอปฯ ที่เน้นการนำเสนอคอนเทนต์ทั้งแบบบทความและวิดีโอ คล้ายๆ กับการเขียนบล็อกในยุคก่อนๆ

ผู้เขียนสามารถสร้างแอคเคาท์แชร์เรื่องราวต่างๆ ได้ตั้งแต่การแบ่งปันประสบการณ์ แชร์สาระความรู้ (ที่ไม่ได้ลอกคนอื่นมา) ซึ่งหากเนื้อหาถูกอกถูกใจได้รับความนิยมจากผู้อ่านชาว Blockdit หรือเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์ของเรา ก็จะได้เพชร! เป็นการตอบแทน ซึ่งเพชรนี่แหละจะสามารถเปลี่ยนเป็นผลตอบแทนที่เป็นเงินให้กับเจ้าของคอนเทนต์ อย่างไรก็ตามคอนเทนต์ที่ว่าจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานและกติกาของบล็อกดิตด้วยถึงจะมีโอกาสสร้างรายได้เข้ากระเป๋าเรื่อยๆ

 3. Shutterstock Contributor (ชัตเตอร์สต็อก คอนทริบิวเตอร์)

สำหรับคนที่เล่าเรื่องไม่เก่ง ก็มีแอปฯ ที่ช่วยหารายได้ได้เช่นกัน อย่างคนที่ชอบถ่ายภาพ ลองทำความรู้จักแอปฯ Shutterstock Contributor เอาไว้ แอปฯ นี้ที่เปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถถ่ายภาพ และคลิปวิดีโอขายได้ตามความสนใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปอาหาร วิว บุคคล(ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข) สัตว์เลี้ยง พื้นผิว ฯลฯ

ที่สำคัญภาพที่ขายไม่จำเป็นต้องถ่ายด้วยกล้องระดับโปรเท่านั้น แต่ใช้โทรศัพท์มือถือก็ได้ โดยภาพที่ลงขายจะไปอยู่ใน "Shutterstock" ซึ่งเป็นเว็บไซต์ขายภาพที่จะมีคนที่ต้องการภาพไปใช้งานในสื่อหรืองานโฆษณาต่างๆ เข้ามาช้อปปิ้งอยู่ตลอด

ภาพถ่ายที่เราลงขายจะสร้างผลตอบแทนให้กับเจ้าของภาพไปได้เรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อของลูกค้าที่เข้ามาตามหาภาพ เรียกได้ว่าขายแล้วขายอีกได้ สร้างรายได้ไม่รู้จบ

 4. Line (ไลน์) 

เชื่อว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักไลน์ แอปฯ แชทที่ได้รับความนิยมทุกเพศทุกวัยในไทย และมีลูกเล่นสำคัญอย่าง "สติ๊กเกอร์ไลน์" "อิโมจิ" และ "ธีม" ที่เอาไว้ใช้สำหรับสำหรับไลน์โดยเฉพาะ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเราได้ ใครที่มีฝีมือด้านการวาด หรือมีไอเดียเจ๋งๆ กวนๆ ก็สามารถสร้างสติ๊กเกอร์ อิโมจิ หรือธีม ของตัวเองลงขาย ซึ่งรายได้มาจากการซื้อสติ๊กเกอร์ของผู้ใช้คนอื่นๆ และมีการแบ่งรายได้กับไลน์ตามเงื่อนไขของแพลตฟอร์ม ซึ่งการทำหนึ่งครั้งสามารถขายได้ตลอด นั่นหมายความว่าถ้าสติ๊กเกอร์ของเราเป็นที่นิยม ก็มีโอกาสรับรายได้ตลอดเช่นกัน

 5. TikTok (ติ๊กต่อก) 

"TikTok" เป็นอีกหนึ่งแอปฯ มาแรง ที่ใครๆ ก็ให้ความสนใจ ไม่ใช่เพราะแค่มีคอนเทนต์เพิ่มความบันเทิงให้ชีวิต หรือเต้นสนุกเท่านั้น แต่ตอนนี้ติ๊กต่อกกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้ไปแล้ว

สำหรับการสร้างรายได้ในติ๊กต่อก สามารถทำได้หลายรูปแบบทั้งการครีเอทคอนเทนต์เพื่อนำไปสู่การขายสินค้า หรือสร้างรายได้จากการไลฟ์ที่จะมีคนของขวัญที่เปลี่ยนเป็นเงินได้จริงๆ รวมไปถึงการมีสปอนเซอร์ และโฆษณาเข้ามาก็สามารถสร้างรายได้เวลาอยู่บ้านได้เหมือนกัน

สำหรับใครที่อยากมีรายได้เข้ากระเป๋าเพิ่มขึ้น ลองศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดของแต่ละแอปฯ แล้วเอามาแมชต์กับทักษะที่ซ่อนอยู่ในตัวเองมาเปลี่ยนเป็นรายได้ที่นอกจากจะช่วยแก้เบื่อช่วงวันหยุดที่ไม่ได้ไปไหนแล้ว ยังช่วยปูทางต่อยอดอาชีพและรายได้ให้ตัวเองอีกด้วย 

cr. www.bangkokbiznews.com