Saturday, February 5, 2011

น่ารักสดใสสไตล์ “บ้านปลาพาเหรด”




ตู้ปลาสีสันสดใสดีไซน์สามารถนำมาใช้เป็นของตกแต่งบ้านได้ลงตัว ผู้ปิ๊งไอเดียนี้ คือ “เฉลิมเกียรติ – ธัญกร บรรจงปรุ” สามีภรรยา ที่เริ่มจากการเห็นโทรทัศน์มาทำเป็นตู้ปลา เลยเอาทำเองบ้าง แต่ออกมารู้สึกว่าไม่มีสีสัน เลยคิดใหม่ มาลงตัวที่ไอเดียว่า ตู้ปลาก็คือบ้านของปลา

ากนั้น เฉลิมเกียรติซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ออกแบบให้กลายเป็นบ้านปลาสีหวานแหวว มีความน่ารัก ดูเข้ากันกับผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี เฉลิมเกียรติเลือกที่จะลงทุนอย่างเต็มตัว ทั้งเรื่องของเครื่องไม้เครื่องมือ และวัสดุต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นตัวทุนที่สูงอยู่พอสมควร แต่ผลที่ได้รับก็คุ้มค่า เพราะหลังจากเปิดตัวเมื่อกลางปี 2546 กระทั่งถึงปัจจุบัน “บ้านปลาพาเหรด” มียอดสั่งผลิตเข้ามาอย่างสม่ำเสมอกลายเป็นธุรกิจหลักให้กับทั้งสอง

แบบ “บ้านปลาพาเหรด” มีให้เลือก อาทิ บ้านเล็กเจาะหลังคา บ้านปล่องไฟ บ้านทรงสูง และปราสาท เป็นต้น ราคาอยู่ที่ 800 – 1,800 บาท แบบเน้นสีสันสดใส ราวกับบ้านในเทพนิยาย แต่เจ้าของไอเดีย บอกว่า ยังไม่หยุดอยู่เท่านี้แน่นอน เพราะจะพยายามสร้างสรรค์แบบต่าง ๆ ออกมาอีกเพื่อเอาใจลูกค้าในทุก ๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะคนทำงาน กลุ่มครอบครัว และลูกค้าที่รับไปขายต่ออย่าง อาทิ ร้านขายปลา ร้านกิ๊ฟช้อป รวมไปถึงลูกค้าจากต่างประเทศด้วย

สำหรับช่องการจำหน่ายทุกวันนี้ เน้นออร์เดอร์จากการไปโชว์สินค้าในบูธตามงานต่าง ๆ แล้ว และมีร้านอยู่ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัล ซิตี้ บางนา สนใจโทร 0-1779-5747, 0-1617-8013

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

เปลี่ยนขยะเป็นทอง ดีไซน์เฟอร์นิเจอร์โมเดิร์นจากเศษขยะ


เศษเหล็กเหลือทิ้งจำนวนมากภายในโรงงาน



กรีน ดีไซน์ (Green design ) กำลังอยู่ในกระแสนิยม เพราะเป็นงานที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการทำลายสิ่งแวดล้อมที่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ชนิดเดียวกันได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการนำเอาสิ่งของเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรม อาทิ เหล็ก เศษผ้า พลาสติก กระดาษ มาสร้างมูลค่าด้วยการออกแบบที่สร้างสรรค์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่นเฉพาะตัวและช่วยลดโลกร้อนได้อย่างมีคุณค่า

โครงการ “เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง” เกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในเชิงรุก ด้วยการนำสิ่งของเหลือใช้มาดัดแปลงสร้างคุณค่าให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่ม ช่องทางการตลาดผ่านโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (iTAP) ภายใต้ ศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่มี ผศ.ดร. สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีทางอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญ

วิรุฬห์ศักดิ์ พูลลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโกลบอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

นายวิรุฬห์ศักดิ์ พูลลาภ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามโกลบอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด กล่าวว่า ในแต่ละปีบริษัทมีเศษเหล็กเหลือทิ้งอยู่เป็นจำนวนมาก กระทั่งทราบข่าวว่าโครงการ iTAP มีโครงการ “เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง” และ ได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมโดยมี ผศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต เป็นผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา โดยสาเหตุที่เข้าร่วมโครงการนี้ เนื่องจากกว่า 12 ปีของการก่อตั้งบริษัท ดำเนินกิจการด้านวิศวกรรม ด้านการผลิตตัวเชื่อมเพื่อรองรับการขยายตัวของคอนกรีตทางด่วนบางนา-บางปะกง และงานโครงสร้างหลังคาสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเสร็จสิ้นงานแล้วพบว่ามีเศษเหล็กเหลือกองทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก


“แต่ละปีบริษัทฯ ใช้เหล็กมากถึง 3,000 ตัน และมีเหล็กเหลือใช้เฉลี่ย 7-8 % คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท ถือเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร ทางเลือกสุดท้ายของโรงงานคือต้องขายทิ้งเป็นเศษเหล็กในราคากิโลกรัมละ 8-10 บาท ขึ้นอยู่กับราคาเหล็กโลกที่ปัจจุบันราคาเหล็กใหม่จะอยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 20-30 บาท”

นายวิรุฬห์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเรามองข้ามชิ้นส่วนและเศษเหล็กเหลือใช้มาตลอด แต่เมื่อ ผศ.ดร.สิงห์ เข้ามาเยี่ยมชมโรงงานและขอคัดเลือกเศษเหล็กเพื่อนำไปผลิตเป็นชิ้นงานใหม่ ไม่นานนักแบบร่างเฟอร์นิเจอร์ที่ผ่านการดีไซน์มาอย่างเก๋ไก๋ก็ถูกส่งมาให้ โรงงานดัดแปลงเป็นเฟอร์นิเจอร์เหล็กที่มีความคงทน สามารถนำกลับไปใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกสถานที่


“งานเปลี่ยนขยะให้เป็นทองค่อนข้างง่ายกว่างานโครงสร้างที่บริษัทฯ ทำอยู่ ความยากของชิ้นงานอยู่ที่การดีไซน์ซึ่งโชคดีที่มี ผศ.ดร. สิงห์ คอยให้ความช่วยเหลือ ประกอบกับการผลิตชิ้นงานจากเศษเหล็กเป็นเฟอร์นิเจอร์นั้นบริษัทสามารถนำ อุปกรณ์ที่มีอยู่มาประยุกต์ใช้ได้ โดยไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ใหม่ และเมื่อประกอบเสร็จชิ้นงานที่ได้จะมีราคาสูงกว่าการนำเศษเหล็กไปชั่งกิโล ขายหลายเท่าตัว”

ปัจจุบันแม้จะยังไม่มีลูกค้าประจำ เนื่องจากสยามโกลบอลเพิ่งเริ่มผลิตเฟอร์นิเจอร์จากเหล็กเหลือใช้ แต่โชคดีที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดภูมิทัศน์ภายในมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ภายใต้ชื่อโครงการเกษตรรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งพบว่าผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการขายเศษเหล็กเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่ผ่านมาบริษัทได้นำผลงานเฟอร์นิเจอร์ต้นแบบที่ผลิตจากเศษเหล็กจัด แสดงในงาน TIFF 2009 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ด้าน ผศ. ดร. สิงห์ กล่าวว่า โครงการ “เปลี่ยนขยะให้เป็นทอง” คืองานที่ต้องคิดตลอดเวลา หาวิธีนำกลับมาใช้ใหม่ที่หลากหลาย เพราะเป็นงานที่ต้องสร้างคุณค่าให้กับเศษวัสดุเหลือใช้ เป็นเรื่องยากมากที่จะออกแบบชิ้นงานโดยไม่ได้เห็นเศษวัสดุก่อน การเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการจึงหนีไม่พ้นการบูรณาการองค์ความรู้ที่มี อยู่เข้าไปพัฒนาของเหลือใช้จากภาคอุตสาหกรรมให้เกิดประโยชน์

ทั้งนี้ การเป็นที่ปรึกษาของโครงการนี้ ทำให้สามารถนำองค์ความรู้ทางการออกแบบที่มีอยู่มาพัฒนาและเพิ่มพูนศักยภาพ ของผู้ประกอบการ นำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาปรับใช้กับเศษวัสดุแต่ละชนิดโดยไม่ต้องลงทุนสูง มาก สำหรับงานเหล็กของ สยามโกลบอลฯ นั้น ความยากอยู่ที่การขึ้นรูป ทำสีและการหยุดสนิม เพื่อรักษาสีส้มอมเหลืองของสนิมให้คงที่ ซึ่งเป็นงานดีไซน์ที่แตกต่างไปจากงานไม้หรืองานผ้า เพราะเฟอร์นิเจอร์จากเหล็กจะเน้นความแข็งแรง ทนทาน

อย่างไรก็ตาม การดีไซน์สามารถทำให้รูปแบบเหล็กเกิดความอ่อนช้อยและเพิ่มความสวยงามให้กับ ชิ้นงานได้ด้วยการเติมสีสัน เช่น ทำสีใหม่ หรือ เก็บสีสนิมไว้โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งการสร้างเหล็กให้เป็นสนิมและรักษาสีสนิมให้พอเหมาะถือเป็นงานที่ท้าท้าย มาก และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงของการทดลอง ฉะนั้นจึงพูดไม่ได้เสียทีเดียวว่าสนิม คือ “ข้อด้อยของเหล็ก” เพราะบางแบบเราสามารถสร้างจุดเด่นโดยใช้สนิมได้


แหล่งข้อมูล www.thaismefranchise.com